ดินสอสีเลือด

ดินสอสีเลือด

สมาชิก

  ขอฉันนะ ตับ ม้าม ปอด ไต และหัวใจ ของคุณ (ตอนที่ 2) (127 อ่าน)

23 พ.ย. 2565 22:28





ตอนที่ 2



โปรเจกเตอร์หน้าจอแอลอีดีกำลังฉายภาพเคลื่อนไหวกล้องวงจรปิดสีขาวดำ ด้านขวามุมบนสุดแสดงวันเดือนปี และเวลาในขณะนี้ 19-4-2020 04:09:17 มีแสงไฟสีขาวสองดวงสว่างจ้าให้รู้ว่า นั่นคือรถยนต์คันหนึ่งวิ่งมาจอดเทียบฟุตพาทใกล้กับถังขยะตรงบริเวณจุดเกิดเหตุ จากนั้นปิดไฟภายนอกตัวรถ ทำให้ภาพทั้งภาพมืดสนิท เห็นเพียงแสงไฟเล็ก ๆ ตรงเสาไฟฟ้าห่างจากที่เกิดเหตุประมาณเจ็ดสิบเมตร สองนาทีต่อมาไฟหน้ารถกลับมาสว่างอีกครั้งก่อนจะเคลื่อนตัวห่างออกไป



“ซูมเข้าใกล้ ๆ ให้เห็นภาพชัดเจนได้ไหม”



ร.ต.ท. วันชัย กัณฑ์ตะเมฆ เจ้าของส่วนสูง 173 เซนติเมตร รูปร่างนักกีฬาสมส่วนไร้พุงซุกซ่อนอยู่ภายใต้ชุดตำรวจเต็มยศ ติดดาวบนบ่าข้างละสองดวงระยิบระยับทำให้รู้ว่าภายในห้องนี้เขามีตำแหน่งใหญ่สุด ผู้มีความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวฉายแววความฉลาดอยู่ในดวงตาคู่นั้น ใบหน้ารูปไข่ หน้าผากแคบ จมูกโด่งเป็นสันเด่นสุด หนวดเคราโผล่ขึ้นมาสั้น ๆ รอบปากและปลายคางบ่งบอกชัดเจนว่าไม่ได้โกนมาแล้วหลายวัน มีผิวสีแทนสมกับเป็นคนใต้โดยกำเนิด พอเริ่มต้นทำงานไม่ถึงสองปีก็ถูกสั่งย้ายงานกลางอากาศ ก่อนได้เลื่อนยศให้ดำรงตำแหน่งนายร้อยตำรวจโท แถมคำสั่งพ่วงท้ายโยกสายงานมาทำที่นี่เป็นของขวัญรางวัลชิ้นใหญ่ ไม่ถามผู้รับเลยสักคำว่าชอบไหม ยกข้อศอกทั้งสองข้างขึ้นมาวางบนโต๊ะสองมือประสานกันบีบรัดแน่น เพ่งสายตาจ้องเขม็งยังจอแอลอีดีขนาดใหญ่ด้านหน้าห้องประชุมเล็ก ภายใต้อาคารสำนักงานสถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ ซึ่งรับผิดชอบคดีชายปริศนาถูกฆ่ายัดถุงขยะอย่างทารุณโหดร้ายควักเอา ตับ ม้าม ปอด ไต และหัวใจ ออกไปจากร่าง



เจ้าหน้าที่ขยายภาพโฟกัสเข้าใกล้สุด ภาพไม่ชัดเจนขมุกขมัวด้วยเป็นเวลากลางคืน เห็นใครคนหนึ่งสูงตามมาตรฐานทั่วไปใส่เสื้อแขนยาวกางเกงขายาวและสวมหมวกปีกกว้าง กำลังเอาอะไรบางอย่างออกจากท้ายรถท่าทางทุลักทุเล วางใกล้กับถังขยะ



“คนนี้แหละคือผู้ต้องสงสัย ขยายต่อให้เห็นหน้าได้ไหม” ร.ต.ท. วันชัยถามต่อ



“ขยายต่อได้แต่ก็ไม่เห็นหน้า ภาพมันแตกจนเบลอทั้งหมดครับ” ไม่พูดเปล่าทำการขยายภาพส่วนของใบหน้าให้เห็นว่าสิ่งที่ตนตอบนั้นถูกต้อง



“ทะเบียนรถล่ะ”



“อันนี้ไฟหน้ารถพอช่วยให้เห็นอยู่ครับ”



เจ้าหน้าที่คนเดิมตอบ และเลื่อนขยายภาพทะเบียนรถคันดังกล่าว 01กก0201 กรุงเทพมหานคร ยี่ห้อนิสสัน



“ต่อ”สบตากับเจ้าหน้าที่ให้รายงานเพิ่มเติม



“ทะเบียนรถปลอมครับ”



คำตอบที่รับฟังไม่ทำให้แปลกใจมากนัก อาจเป็นเพราะเขาคาดการณ์ไว้ก่อนแล้วล่วงหน้า



“ตามรอยไปหรือเปล่าว่ามาจากไหนแล้วหลังจากนั้นคนร้ายขับไปไหน”



“เมื่อคืนผมกับสิบเอกเสียมช่วยกันดู จากข้อมูลกล้องวงจรปิดในละแวกนั้นไม่กี่ตัว ก็เห็นว่าวิ่งมาจากแยกแครายเลี้ยวเข้าถนนรัตนาธิเบศร์ตรงมายังจุดเกิดเหตุ พอคนร้ายทิ้งศพก็ขับตรงทางบางใหญ่แล้วหายไปเลยครับข้อมูลมีเท่านี้



“ดีมากสิบเอกชุมพล แต่ผมเชื่อว่ารถคันนี้ไม่มีทางล่องหนหรือหายตัวได้ ฝากตามเรื่องนี้ต่อ เอาข้อมูลจากกล้องวงจรปิดทุกตัวมาตรวจสอบเพิ่มเติม ผมอยากรู้ว่ารถคันนี้มันโผล่มาจากไหน หลังจากทิ้งศพแล้ววิ่งไปไหน”



“ครับผู้หมวด”



ส.ต.อ. ชุมพล ซึ่งรับผิดชอบงานตรวจสอบเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด ยิ้มกริ่มดีใจ ร.ต.ท. วันชัยเปิดโอกาสให้เขาเข้าร่วมการสืบสวนสอบสวนครั้งนี้ด้วย เขาจะได้ออกนอกพื้นที่เพื่อตามล่าหารถยนต์คันนั้น ดีกว่านั่งก้นติดเก้าอี้คอยประสานงานอยู่แต่ในสำนักงาน



“ผมขออนุญาตพาสิบเอกเสียมออกสำรวจนอกพื้นที่ด้วยครับผู้หมวด”



“สองหัว กับ สี่ตา หากงานนี้ไม่ได้เรื่อง ผมสัญญาจะลดยศพวกคุณสองคนให้เหลือสิบตรี” สบตากับลูกน้องในทีมอย่างสงบนิ่งไม่มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าทว่ากลับอยู่ภายในแทน



ทั้งสองลุกขึ้นยืนทำวันทยหัตถ์ ยกมือขวาขึ้นชูสามนิ้วปลายนิ้วชี้แต่อยู่หางคิ้ว พูดพร้อมกันหนักแน่น “รับทราบ ขอบคุณครับผู้หมวด” แล้วหย่อนก้นลงนั่งกับเก้าอี้ตัวเดิม ประโยคดังกล่าวของหัวหน้าทำเอาพวกเขาใจฝ่ออยู่บ้างถึงแมรู้ว่านั่นเป็นแค่คำขู่ ด้วยรู้จักนิสัยของ ร.ต.ท. วันชัยดีไม่เคยทำลายลูกน้อง ในทางตรงกันข้ามมีแต่ส่งเสริม เป็นบุคคลสุขุมรอบคอบ มุ่งมั่นกับงานที่รับผิดชอบ ไม่มีเลียแข้งเลียขาหรือพยายามตัดต่อขาโต๊ะใคร ไม่สนใจแม้แต่ตำแหน่งว่าตนจะได้เลื่อนยศเลื่อนชั้นสัญญาบัตรหรือไม่ ขอเพียงทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ยึดมั่นในคำปฏิญาณตนของอาชีพตำรวจก็พอ นั่นจึงไม่มีใครแปลกใจว่าอะไรทำให้เขาถูกย้าย และมักถูกให้รับงานที่คนอื่น ๆ ไม่อยากรับอย่างเช่นงานนี้เป็นต้น



“จ่าลายนิ้วมือจากถุงดำ”



“ไม่พบลายนิ้วมืออื่นแฝงนอกจากของป้าสายใจครับ”



“แล้วรายงานคนหายตามสถานีต่าง ๆ ล่ะ”



“ทำเรื่องขอไปแล้วครับ คาดว่าน่าจะไม่เกินเก้าโมงเช้าครับ” จ.ส.ต. เกิดตอบก้มมองดูนาฬิกาบนข้อมือเวลานี้ 08:33 นาที



“เราอาจจะรู้ว่าเหยื่อเป็นใครถ้ามีญาติหรือคนรู้จักมาแจ้งความคนหาย ทำให้สืบหาคนร้ายง่ายขึ้น” ส.ต.อ. เสียมเอ่ยพร้อมรอยยิ้มอย่างมีความหวัง



“ตามหาชายคนที่อยู่กับป้าสายใจได้เรื่องไหมจ่า”



“หน่วยงานส่งเจ้าหน้าที่ไปดักรอป้ายรถเมล์แต่เช้าวันนี้ ยังไม่เจอครับ”



“ดักรอต่อไปทุกวันจนกว่าจะเจอ ยกเว้นว่าเขาจะเป็นคนร้ายเสียเอง”



“ครับผม”



“ตอนนี้เรายังไม่พบเบาะแสที่จะสาวไปหาตัวคนร้ายได้ แต่ผมอยากให้ทุกท่านทั้งห้าในห้องนี้ช่วยกันวิเคราะห์ว่าแรงจูงใจของคนร้ายรายนี้คืออะไร เอา ตับ ม้าม ปอด ไต และหัวใจ ของเหยื่อไปทำไม” ร.ต.ท. วันชัยไล่สบตาทีละคน จนหยุดอยู่ที่ ร.ต.ต. ประเสริฐ ผู้มีดวงตาดังนกเหยี่ยว คิ้วสองข้างดกหนา โครงหน้ารูปเหลี่ยม ผมสั้นเสยปัดขึ้นทางด้านหลัง เวลานี้ทำหน้าบอกบุญไม่รับเพราะถูกบังคับให้มาช่วยงาน ร.ต.ท. วันชัย ด้วยเหตุผลส่วนตัวคือไม่ชอบขี้หน้า ออกไปทางอิจฉาที่ข่าววงในมาอย่างไม่เป็นทางการ ร้อยตำรวจโทวันชัย กำลังจะได้เลื่อนยศเป็นร้อยตำรวจเอกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า



“อาจจะเป็นชู้สาว” ร.ต.ต. ประเสริฐตอบไปแบบมะนาวไม่มีน้ำ



“อะไรทำให้หมวดคิดว่าชู้สาว” ร.ต.ท. วันชัย ถามต่อ



“อาจจะฆ่าเพราะหึงหวง ผู้ตายอาจนอกใจก็ได้”



“แล้วทำไมคนร้ายไม่ฆ่าเฉย ๆ ทำไมถึงควักเอาอวัยวะเหล่านั้นออกมาด้วย”



“ผมไม่รู้ อาจทำเพื่อความสะใจ คนสมัยนี้ใจคอโหดร้าย พ่อแม่ลูกตัวเองแท้ ๆ ยังฆ่าได้ลงคอ นับประสาอะไรกับคนอื่น”



“มีเหตุผล อาจเป็นไปได้ แล้วใครคิดว่าคนร้ายรายนี้ทำไปเพราะเรื่องอื่นอีกที่ไม่ใช่ชู้สาว” ร.ต.ท. วันชัยเขียนคำว่า ‘ชู้สาว’ ลงในสมุดบันทึกของตัวเองตรงหน้า



“อาจเดือดร้อนเรื่องเงิน ฆ่าเพื่อเอาอวัยวะเหล่านี้ไปขาย เป็นไปได้ไหมครับ”ด.ต. ณรงค์นั่งติดกับ ร.ต.ต. ประเสริฐ ออกความคิดเห็นบ้าง



“ขายอวัยวะ อืมม…อาจเป็นไปได้ ยกเว้นม้ามผมไม่เคยได้ยินนะว่า ม้าม สามารถปลูกถ่ายได้ด้วย หรือ ฝากดาบตามสืบเรื่องนี้ต่อเลยละกัน” เขียนคำว่า ‘ขายอวัยวะ’ ลงมาอีกบรรทัดหนึ่ง



“ครับผู้หมวด” ด.ต. ณรงค์ รับปากอย่างแข็งขัน



“ฝากขุดลึกถึงใต้ดินเลยนะดาบ” ร.ต.ท. วันชัยสบตากับ ด.ต. ณรงค์ จิกยิ้มนิดนึง รู้ว่านายตำรวจผู้นี้สามารถเข้าถึงมุมมืดอีกมุมได้หลากหลายวิธีอย่างคาดไม่ถึง



“ครับ”



“มีใครคิดว่า คนร้าย ทำไปเพราะเหตุผลอื่นอีกไหม”



คำถามดังกล่าวทำให้บุคคลทั้งห้านั่งอยู่ด้านข้างรอบโต๊ะประชุมเงียบกริบ มองไม่ออกว่าคนร้ายรายนี้ควักเอาอวัยวะทั้งห้าของเหยื่อไปเพื่ออะไรอีกนอกจากสองข้อที่เอ่ยกันมาแล้ว



(มีต่อ)

ดินสอสีเลือด

ดินสอสีเลือด

สมาชิก

ดินสอสีเลือด

ดินสอสีเลือด

สมาชิก

23 พ.ย. 2565 22:29 #1

“แต่ผมมั่นใจมากว่าคนร้ายกับผู้ตายต้องรู้จักกัน” ร.ต.ท. วันชัยเอ่อออกมาท่ามกลางความเงียบ



“อย่างนี้ถ้าเรารู้ว่าผู้ตายเป็นใคร ก็อาจมีหวังสืบหาตัวคนร้ายได้” ส.ต.อ. เสียมกล่าว



“ใช่ และอาจไม่ได้ลงมือคนเดียว”



“ผู้หมวดคิดว่าคดีนี้อาจมีฆาตกรมากกว่าหนึ่งคนเหรอครับ” ด.ต. ณรงค์ถามกลับ



“ใช่ และไม่ใช่ ทุกอย่างย่อมเป็นไปได้”



“ผู้หมวดครับ” ด้วยความเคารพและให้เกียรติหัวหน้า จ.ส.ต.เกิด เรียก ร.ต.ท. วันชัย ‘ผู้หมวด’ ทุกครั้งเวลาอยู่ต่อหน้าผู้อื่น แต่ถ้าปฏิบัติงานด้วยกันสองต่อสอง เรียก ‘หมวด’ ตามความประสงค์ของเจ้าตัว



“ว่าไงจ่า”



“ข้อมูลคนหายถูกส่งมาที่คอมผมแล้วครับ” จ.ส.ต. เกิด รีบแจ้งเห็นมีสัญญาณการส่งข้อมูลเตือนทางหน้าจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คตรงหน้า



“ว่า”



“จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังเดือนมีนาคมจนถึงปัจจุบัน ทุกสถานีรวมกันเป็นเพศชาย มี 41 คนครับ”



“เอาข้อมูลขึ้นหน้าจอเลยจ่า”



“ครับ”



ภาพชายทีละคนถูกฉายอยู่บนจอแอลอีดีให้ทุกคนในห้องประชุมเห็น ครึ่งหนึ่งแสดงรูปหน้าส่วนอีกครึ่งเขียนบอก อายุ ส่วนสูง ตำหนิ บางคนส่วนสูงได้ สีผิวได้ แต่น้ำหนักไม่ได้ออกไปทางผอมกะหร่องมีแต่หนังติดกระดูก บางคนส่วนสูงกับน้ำหนักใกล้เคียงแต่สีผิวคนละขั้ว คนสุดท้ายน้ำหนักได้ สีผิวได้ ทว่าส่วนสูงกลับเตี้ยกว่าผู้ตายห้าเซนติเมตร



“จ่าย้อนกลับไปคนที่ 28 อีกที” ร.ต.ท. วันชัยเอ่ย



“คนนี้เหรอครับ นายกนก เชิดชูศักดิ์ศรี ชื่อเล่น กนก อายุ 33 ปี หายออกจากบ้าน ย่านรัตนาธิเบศร์ อำเภอนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2019 เวลาประมาณ 10.00 น. รูปร่างท้วม สูง 169 ซม. ผิวสองสีขาวเหลือง ผมสั้นสีดำ”



“คนนี้ใกล้เคียงกับผู้ตายมากสุด ตามที่เราระบุข้อมูลว่าผู้ตาย อายุ 30-35 สูง 168 น้ำหนัก 66 ผิวสองสี ผมสั้นสีดำ เดี๋ยวเลิกประชุมเราไปบ้านญาตินายกนกกันหน่อยจ่า”



“ครับผู้หมวด” จ.ส.ต. เกิด ตอบรับพร้อมกับนึกชื่นชมความจำของอีกฝ่ายอย่างน่าทึ่ง



“วันนี้เราพอแค่นี้ก่อน ฝากทุกคนติดตามงานที่คุยกันไว้ให้ผมด่วน แจ้งผลทันทีถ้าเจออะไร แยกย้าย จ่าเกิดรอผมด้านนอก รบกวนหมวดประเสริฐอยู่ก่อนผมมีเรื่องปรึกษาด้วยนิดหน่อย”



“ครับผม”



ทุกคนออกจากห้องประชุม ยกเว้น ร.ต.ต. ประเสริฐ ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม ประสานสายตาไม่พอใจกับคนออกคำสั่ง ทว่าอีกฝ่ายวางท่าทีสุขุมหาได้ใส่ใจกิริยาดังกล่าวไม่



“หมวดจะคุยอะไรกับผม” ถามเสียงห้วน



“ผมอยากรบกวนหมวดตามสืบหาว่าใครเป็นคนซื้อรถยนต์คันนี้ให้หน่อยครับ”



“ทำไม”



“ผมคิดว่าคนร้ายอาจไปหาซื้อกับพวกชอบซื้อขายของผิดกฎหมายแน่นอนครับ”



“เยอะนะหมวด อีกอย่างพวกมันระวังตัวมาก เรายังเอาผิดใครไม่ได้เลย”



“แต่ผมว่าหมวดสามารถเอาข้อมูลมาให้ผมได้นะครับ”



“ทำไมต้องให้ผมทำเรื่องนี้ด้วย” ร.ต.ต. ประเสริฐหงุดหงิดกับการถูกอีกฝ่ายใช้งานมันทำให้เขารู้สึกตัวลีบเล็กลง



“ให้คนอื่นผมเกรงว่าเสียเวลาเปล่า เข้าไม่ถึงตัวการ ถ้าเข้าถึงก็คงไม่ยอมคายความลับว่าขายให้ใคร หากเป็นหมวดซึ่งมีวิธี และศักยภาพเส้นสายเยอะ เรื่องนี้ต้องสำเร็จแน่นอนครับ ผมมองเห็นหมวดเท่านั้นทำเรื่องนี้ได้” ร.ต.ท. วันชัย เอ่ยเป็นการเป็นงานท่าทีขึงขัง เขารู้จักนิสัยคนตรงหน้าดี ถ้าจะใช้งานบุรุษผู้นี้ต้องกล่าววาจาเช่นไร



ร.ต.ต. ประเสริฐยืดตัวตรงคอตั้งกอดอกแสดงท่าทีถอนหายใจให้อีกคนได้ยิน ความเป็นจริงแอบยิ้มก่อนจะตีสีหน้าปกติแล้วตอบกลับสั้น ๆ “ก็ได้”



“ขอบคุณครับ”



ส่งยิ้มจริงใจให้กับคนหน้าบูด หากตัดเรื่องส่วนตัวออกจากหน้าที่การงาน ร.ต.ต. ประเสริฐ ถือว่าเป็นคนหนึ่งมีทำผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่แพ้ใคร ถ้าตัดความอารมณ์ร้อนออกไปได้ สายงานตำรวจคงรุ่งโรจน์เจิดจรัส สามดาวบนบ่าอยู่ใกล้แค่เอื้อม





**************





ร.ต.ท. วันชัย และจ.ส.ต. เกิด สะสมทรัพย์ ซึ่งอยู่ในชุดเครื่องแบบ ตัวเล็กรูปร่างผอม ความสูงนั้นคาบเส้นตามเงื่อนไขการสมัครสอบเป็นตำรวจ อารมณ์ดี เปิดเผย ต่างกับโครงหน้าที่ใครเห็นก็คิดว่าเป็นเสือยิ้มยาก เพราะชอบไว้หนวดเคราวางมาดหน้านิ่งให้คนพบเห็นกริ่งเกรงในตัวเขาเอาไว้ก่อน ยืนกดออดอยู่หน้าบ้านเลขที่ 456/6 ภายในหมู่บ้านของคนมีฐานะระดับหนึ่งถึงสามารถซื้อบ้านเดี่ยวสไตล์อิตาลีราคาหลายล้าน ด้านหน้ามีสนามหญ้าเขียวขจี พุ่มไม้ถูกตัดแต่งสวยงามเป็นระเบียบ พร้อมโรงจอดรถได้สองคัน ทำให้รู้ว่าไม่ใช่แค่บ้านที่มีราคาหลักล้าน เพราะมันเป็นรถยนต์ยุโรปโลโก้ดาวสามแฉก ส่วนอีกคันมีผ้าคลุมรถสีเทาปิดอยู่



หญิงสาวคนหนึ่งเดินออกมาท่าทางเป็นเด็กรับใช้ ดูจากรูปหน้าก็รู้ว่าไม่ใช่คนภาคกลางมาแต่กำเนิด บวกกับการแต่งตัวเสื้อยืดกางเกงขาสั้นราคาถูกหาซื้อได้ทั่วไปตามตลาดนัด ยืนสอบถามสองสามประโยคก็กลับเข้าไปในบ้าน จากนั้นอีกสามนาทีกลับมาเปิดประตูให้



ภายในบ้านข้าวของเครื่องใช้ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ ผนังด้านหนึ่งของห้องรับแขกเป็นกระจกใสบานใหญ่ สามารถมองเห็นสวนสวยต้นไม้เขียวครึ้มจากภายนอกบ้านแลดูสบายตา มีโซฟารับแขกตัวยาวและสั้นวางคู่กันเป็นรูปตัวแอลหุ้มด้วยผ้าโพลีเอสเตอร์สีเทาเข้มพร้อมหมอนอิงสีเปลือกไข่วางอยู่อีกห้าใบ ฝั่งตรงข้ามมีทีวีจอใหญ่ 48 นิ้วไม่เปิดใช้งาน ติดกับชั้นวางหนังสือเปิดโล่งอัดแน่นเต็มทุกช่อง บรรยากาศดูสงบเงียบ กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากขวดน้ำหอมวางอยู่หน้าชั้นวางทีวี ขวดแก้วใสรูปทรงสี่เหลี่ยมมีก้านหวายอบแห้งปอกเปลือกปักลงไปเป็นตัวช่วยกระจายกลิ่น ชวนให้เคลิ้มราวกับอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ โชยมาปะทะกับจมูกคนทั้งสองจนเผลอสูดลมหายใจเข้าออกยาว ๆ



“หมวดรู้สึกแปลก ๆ เหมือนผมไหมครับ”



จ.ส.ต. เกิด แอบกระซิบถามเบา ๆ หลังแม่บ้านเอาน้ำเย็นมาวางไว้ให้ตรงหน้าแล้วบอกให้รอสักพักคุณนายเพ็ญศรีขอขี้นไปเปลี่ยนชุดก่อน



“แปลกอะไร” แสดงอาการเรียบเฉย หากความจริงคิดเช่นเดียวกับคนถาม



“ผมรู้สึกเหมือนมีคนแอบมองเราอยู่ยังไงก็ไม่รู้ครับหมวด”



“อาจเป็นแม่บ้านเดินไปมาแถวนี้มั้ง” ตอบกลับปรับท่าเอนกายพิงกับโซฟาตัวยาวทำทีเอี้ยวตัวหันไปทางด้านหลังมองผ่านผนังกระจกดูสนามหญ้า กวาดสายตารอบทิศทางด้วยทำราวกับชื่นชมความงาม ทว่ากำลังสอดส่ายมองหาบางสิ่งกำลังสงสัย



“สวัสดีค่ะคุณตำรวจ ขอโทษที่ให้รอ เห็นแต่งตัวไม่เรียบร้อยเลยขึ้นไปเปลี่ยนชุดเสียใหม่” เสียงนุ่มเย็นของเจ้าของบ้านดังมาตามทางเดิน ทั้งสองลุกขึ้นยกมือขึ้นไหว้สวัสดีพร้อมกัน



“ผมจ่าเกิดครับ และนี่ก็ร้อยตำรวจโทวันชัยครับ” จ.ส.ต. เกิดแนะนำตัวเองพร้อมทั้งหัวหน้าให้กับบุคคลดังกล่าวทราบ



“ขอโทษด้วยครับที่มารบกวนโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า” ร.ต.ท. วันชัยเอ่ย ลอบสังเกตสตรี ชื่อเพ็ญศรี มารดาของนายกนก สวมเสื้อคอกลมผ้าชีฟองลายดอกไม้แขนสั้นทรงหลวมคู่กับกางเกงขายาวผ้าลินินน้ำตาล รูปร่างท้วม ผมสั้นสีดอกเลา หน้ากลมมน แก้มอวบอูมอุดมไปด้วยเนื้อปนไขมัน แต่นั่นกลับทำให้เธอดูสมบูรณ์ตามแบบฉบับผู้ดี ลักษณะท่าทางเป็นคนใจเย็น ยิ้มง่าย และมีนัยน์ตาหมองเศร้า



“ไม่เป็นไรค่ะ เชิญนั่ง เห็นน้อยบอกว่าคุณตำรวจจะมาสอบถามเรื่องลูกชายดิฉันที่หายไป เจอเขาแล้วเหรอคะ ตอนนี้เขาอยู่ไหน” เสียงปลายสายสั่นเครือเล็กน้อยเมื่อเอ่ยถึงคนในครอบครัวอันเป็นที่รัก



“เอ่อ....” เห็นอากัปกิริยาคนตรงหน้าทำเอา จ.ส.ต. เกิด จุกในอกพูดไม่ออกเสียดื้อ ๆ นี่ยังไม่ได้ให้ดูรูปภาพเลย ถ้าให้เห็นโดยสงสัยว่านั่นคือลูกชายของนางเสียชีวิตไปแล้ว จะไม่เป็นลมไปเสียก่อนเหรอ



“ยังไม่เจอครับ แต่มีเรื่องสงสัยเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าจะใช่ลูกชายของคุณเพ็ญศรีหรือไม่” ร.ต.ท. วันชัยเอ่ย เอื้อมหยิบแฟ้มในมือ จ.ส.ต. เกิด มาถือไว้เสียเอง



“ไหนคะ คนไหน ถ้าดิฉันเห็นหน้า ยังไงก็ต้องจำเขาได้แน่นอนค่ะ” ท่าทีตื่นเต้นกระตือรือร้นแววตาเป็นประกายเจิดจ้าเปรียบประหนึ่งคนสิ้นหวังเดินอยู่ท่ามกลางทะเลทรายหิวกระหายอยากจิบน้ำแม้เพียงหยด แล้วเจอกระติกน้ำหล่นอยู่เบื้องหน้า



“ถ้าเห็นแค่ช่วงลำตัว เอ่อ...คือ...ตั้งแต่คอถึงปลายเท้า จะจำเขาได้ไหมครับ” ร.ต.ท. วันชัย รู้สึกลำบากใจขึ้นมาบ้าง มันคงยากที่จะให้เห็นใบหน้าซึ่งถูกถลกหนังหน้าออกไปทั้งผืน



“หมายความว่ายังไงคะ ไม่ให้เห็นหน้า โอ...ไม่นะคะ...คุณตำรวจอย่าบอกนะคะว่าลูกชายดิฉันตายไปแล้วไม่มี...” จากน้ำเสียงสั่นเครือเวลานี้กลายเป็นร้องห่มร้องไห้เสียงดังจนทำให้ใครบางคนไม่รู้โผล่มาจากมุมไหนของบ้านวิ่งเข้ามาสวมกอดเธอเอาไว้



“แม่เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม พวกคุณทำอะไรแม่ฉัน”



หญิงสาวคนหนึ่งคาดคะเนอายุไม่เกินสี่สิบ ผมยาวดำขลับมัดรวบไว้กลางศีรษะ เจ้าเนื้อ ใบหน้าคล้ายกับมารดา เพียงแต่ไม่มีแก้มอวบอูมและริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่มีดวงตาดุดันออกจะรั้นไม่ยอมคนต่างจากคนเป็นแม่โดยสิ้นเชิง นั่นจึงเป็นสาเหตุทำให้ จ.ส.ต. เกิด กับ ร.ต.ท. วันชัย ถึงกับใบ้จับทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ



(มีต่อ)

ดินสอสีเลือด

ดินสอสีเลือด

สมาชิก

ดินสอสีเลือด

ดินสอสีเลือด

สมาชิก

23 พ.ย. 2565 22:31 #2

.

หลังจากตั้งหลักได้ ร.ต.ท. วันชัย เป็นฝ่ายอธิบายสาเหตุทำให้ต้องมาพบ ให้กับอีกฝ่ายฟัง เมื่อรู้ว่าเธอเป็นพี่สาวคนโต อายุห่างจากนายกนก 2 ปี ชื่อ กชมน บ้านหลังนี้มีพี่น้องสามคน คนเล็กชื่อ นายกรรชัย อายุ 30 ปี แต่งงานมีครอบครัวย้ายรกรากไปอยู่เยอรมันนีหนึ่งปีแล้ว คนกลางชื่อ นายกนก เป็นบุคคลสูญหายในระหว่างเดินทางไปทำงานกิจการของครอบครัว คนโตก็คือเธอ นางสาวกชมน ต้องรับผิดชอบดูแลร้านจิวเวอรี่ด้วยตัวเอง แถมยังต้องดูแลบิดา มารดา ซึ่งสุขภาพไม่แข็งแรงเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากความชราทำให้ร่างกายเสื่อมสภาพแปรเปลี่ยนไปตามวัย



“ตายจริง แม่ฉันรักน้องชายคนนี้มาก คงทำใจไม่ได้แค่คิดว่าเขา...” กชมนไม่พูดต่อกลัวมารดาอยู่ในอ้อมกอดของเธอจะร้องไห้ขึ้นมาอีก



“ผมขอโทษนะครับหากทำให้คุณเพ็ญศรีต้องสะเทือนใจ บางที ผู้ชายในรูปที่ผมจะให้ดู อาจไม่ใช่คุณกนก ก็ได้นะครับ คือผมตรวจสอบเบื้องต้นแล้วมันก็ไม่ตรงเสียทีเดียว แต่เพื่อให้แน่ใจก็เลยตัดสินใจมาที่นี่”



“ค่ะฉันดูเอง ฉันว่าฉันดูและจำน้องฉันได้ แต่ขอฉันพาแม่ไปนอนพักบนห้องสักครู่ดีกว่านะคะ...”



“ไม่...ไม่...แม่ไม่เป็นไร แม่จะดู” หญิงสูงวัยโบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน เมื่อลูกสาวทำท่าจะพาเธอลุกไปจากตรงนี้ แถมยังยืนกรานขอดูด้วยตัวเอง



“แต่...แม่คะ”



“ไม่เป็นไรมน แม่ไหว แม่อยากเห็นและยืนยันด้วยตัวเอง”



“คุณป้าแน่ใจนะครับ ก่อนอื่นผมขออนุญาตปิดบังใบหน้า และรูปที่จะเห็นเป็นรูปผู้ชาย ในสภาพเปลือยกายบริเวณหน้าท้องมีรอยเย็บยาวประมาณหกนิ้ว”



“ทำไมคุณตำรวจไม่ให้พวกเราเห็นใบหน้าเขาล่ะคะ” กชมนสงสัย



“เอ่อ...คือว่า...ต่อให้ผู้หมวดให้เห็นหน้าก็ดูไม่รู้ครับว่าชายคนนี้เป็นใคร” จ.ส.ต. เกิดอธิบาย



“ทำไมคะ”



ร.ต.ท. วันชัยลอบถอนหายใจ พลางคิดว่าคงต้องพูดความจริงเสียแล้ว “ใบหน้าเขาถูกถลกหนังหน้าออกไปทั้งผืนเหลือแต่โครงกะโหลก โพรงจมูก ฟัน แล้วก็ลูกตาครับ”



และนั่นจึงทำให้เสียเวลาอีกพักใหญ่ เมื่อคุณนายประจำบ้านมีทีท่าว่าจะเป็นลมหงายตึงพิงเบาะโซฟา ใบหน้าซีดราวไก่ต้ม ต้องรีบเรียกแม่บ้านให้หยิบเอายาดมยาหอมมาปฐมพยาบาลกันชุลมุนวุ่นวาย ส่วนกชมน ซึ่งดูเป็นหญิงแกร่งยังมีสีหน้าสยดสยองขนแขนลุกเกรียว เบิกตาโตแทบถลนออกมานอกเบ้า ตกใจทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน



“ขอโทษคุณตำรวจทำให้เสียเวลา ดิฉันพร้อมแล้ว และภาวนาขอให้ชายในภาพไม่ใช่ลูกชายดิฉัน” เพ็ญศรีพูดพลางสูดดมยาดมถืออยู่ในมือไปพลาง



“ถ้างั้นผมรบกวนหน่อยนะครับ” ร.ต.ท. วันชัย หยิบภาพถ่ายในแฟ้มข้อมูลส่งให้ กชมน



รูปภาพสองใบเป็นชายปริศนานอนอยู่บนเตียงชันสูตรศพ ผ่านการชำระล้างทำความสะอาดร่างกายเรียบร้อยแล้วในสภาพเปลือยเปล่า ใบหนึ่งนอนหงายมีกระดาษสีขาวสี่เหลี่ยมเล็กปิดทับบริเวณใบหน้าและอวัยวะเพศชาย ซึ่ง ร.ต.ท. วันชัยเห็นว่าสองส่วนนี้บุคคลตรงหน้าไม่มีความจำเป็นต้องดู ส่วนใบที่สองชายดังกล่าวนอนคว่ำหน้าเพื่อให้เห็นบริเวณด้านหลังปราศจากการปกปิดใด ๆ



“ไม่ใช่ลูกชายดิฉันค่ะคุณตำรวจ” น้ำเสียงบ่งบอกให้รู้ว่าคนพูดดีใจเป็นอย่างมาก



“อะไรทำให้คุณเพ็ญศรีมั่นใจครับ” จ่าเกิดถาม



“สีผิวค่ะ น้องชายดิฉันผิวออกขาวเหลืองแต่คนในรูปผิวคล้ำ และน้องชายฉันอ้วนกว่ามากค่ะ” กชมนตอบแทนมารดา



“แต่ที่ทำให้มั่นใจมากสุดก็ภาพเห็นแผ่นหลัง ลูกชายดิฉันมีไฝดำปูดเกือบเท่าปลายหัวนิ้วก้อยอยู่ตรงต้นคอค่ะ แต่คนในภาพไม่มี” ชูมือใช้นิ้วโป้งแตะปลายนิ้วก้อยให้ตำรวจทั้งสองนายดู



“ใช่ค่ะแม่พูดถูก”



“ถ้ายังงั้นยินดีด้วยครับที่ไม่ใช่คุณกนก และยังไงขอให้หาตัวเขาเจอในเร็ววันนะครับ ผมสองคนรบกวนคุณสองคนมาพอสมควร ขออนุญาตลาเลยดีกว่าครับ” ร.ต.ท. วันชัยกล่าวปิดท้าย เอื้อมหยิบแก้วน้ำเย็นมีหยดน้ำเกาะพราวอยู่นอกแก้ว วางอยู่บนโต๊ะกระจกสีชาตรงหน้าขึ้นมาดื่มอึกใหญ่



“ขอบคุณมากค่ะคุณตำรวจ ขอไม่ไปส่งนะ ไม่ไหวค่ะ เห็นภาพสองใบนั่น ทำเอาดิฉันหายใจไม่ออกเลย อะไรจะน่ากลัวขนาดนี้ โชคดีเห็นแค่แผลเย็บ ถ้าเอาภาพเห็นถึงลำไส้มาให้ดูนี่คงเป็นลมกันพอดี ขอนอนพักสักหน่อยดีกว่า มนให้น้อยทำยาลมให้แม่อีกสักถ้วยนะ”



“เอ่อ...สามีคุณเพ็ญศรีไม่อยู่เหรอครับผมไม่เห็น” ร.ต.ท. วันชัยเอ่ยถาม



“นอนพักผ่อนอยู่ชั้นบนค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” กชมน ตอบแทนมารดาและถามแกมสงสัย



“อ๋อ ไม่มีอะไรครับ ผมเพียงแต่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ถ้าให้สามีคุณเพ็ญศรีดูแทน คุณเพ็ญศรีก็คงไม่ต้องเป็นแบบนี้ ผมขอโทษอีกครั้งครับ” ร.ต.ท. วันชัย ค้อมศีรษะให้กับบุคคลดังกล่าว



“ไม่เป็นไรค่ะ สามีดิฉันไม่สบายน่ะ เห็นบ่นปวดหัว”



“ขอบคุณนะคะที่มาส่งข่าว แต่ฉันกลับคิดว่าคุณสองคนไม่ได้มาเรื่องคดีคนหาย แต่มาอีกคดีมากกว่า ฉันขอพาแม่ไปนอนบนห้องเลยนะคะ” กชมนสบตากับสุภาพบุรุษในชุดเครื่องแบบสีกากีอย่างรู้ทัน



“...” ไม่มีการตอบกลับจากคนทั้งคู่ เพราะเธอพูดความจริง



“ไปค่ะแม่”



กชมน พยุงมารดาเดินออกจากห้องรับแขกโดยมี ร.ต.ท. วันชัย และจ.ส.ต. เกิดเดินตาม แต่แยกมาอีกทางเพื่อออกจากบ้านเดินผ่านโรงจอดรถ ทำให้ ร.ต.ท. วันชัย เฉลียวใจสงสัยใคร่อยากรู้ บางสิ่งบางอย่างขึ้นมาทันที



“จ่าผมอยากรู้ว่ารถที่มีผ้าคลุมอยู่นี่ เป็นรถยี่ห้ออะไร ทะเบียนอะไร”





….จบตอน….

ดินสอสีเลือด

ดินสอสีเลือด

สมาชิก

ดินสอสีเลือด

ดินสอสีเลือด

สมาชิก

23 พ.ย. 2565 22:34 #3

รื่องนี้ ไม่เหมาะสำหรับ เด็ก และ เยาวชน ไม่ควรอ่านนะคะ แต่ 20+ ไปแล้วอ่านได้ค่ะ :-)

ขอให้ผู้อ่านทุกท่าน มีความสุขกับการอ่านนะคะ แล้วเจอกันตอนที่ 3 อาทิตย์ถัดไปค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ดินสอสีเลือด

ดินสอสีเลือด

สมาชิก

ตอบกระทู้
CAPTCHA Image
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้